ในรายวิชาพัฒนาหลักสูตร
การออกแบบหลักสูตรอยู่ในข้อที่ 2 ตามแนวคิดทฤษฎีของไทเลอร์ “What
educational experiences will attain the purposes? (จะเอาอะไรมาสอน)” หรือการพัฒนาหลักสูตรข้อที่ 2 Design (การออกแบบหลักสูตร) เนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลง
การศึกษาก็ย่อมต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงไปตามการเวลา ดังนั้น
การอกกแบบหลักสูตรเพื่อนำไปสู่การพัฒนาความสามารถหรือความรู้ของเด็กนักเรียนอย่างเต็มที่ต้องคำนึกถึง
สิ่งเหล่านี้
The Four Pillars of Education หรือ
สี่เสาหลักทางการศึกษา ซึ่งพจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
ให้คำอธิบายไว้ว่าหมายถึง หลักสำคัญ ๔ ประการของการศึกษาตลอดชีวิต
ตามคำอธิบายของคณะกรรมาธิการนานาชาติว่าด้วยการศึกษาในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๑
ซึ่งได้เสนอรายงานเรื่อง Learning : The Treasure Within ต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์
และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อ ค.ศ.
๑๙๙๕ ว่าการศึกษาตลอดชีวิตมีหลักสำคัญ ๔
ประการ ได้แก่ การเรียนเพื่อรู้ (Learning to Know) การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติได้จริง (Learning to Do)
การเรียนรู้เพื่อการอยู่ร่วมกัน (Learning to
Live Together) และการเรียนรู้เพื่อชีวิต (Learning to Be)
การเรียนเพื่อรู้ คือ
การเรียนที่ผสมผสานความรู้ทั่วไปกับความรู้ใหม่ในเรื่องต่าง ๆ อย่างละเอียดลึกซึ้ง
การเรียนเพื่อรู้หมายรวมถึงการฝึกฝนวิธีเรียนรู้
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติได้จริง คือ
การเรียนรู้ที่ช่วยให้บุคคลสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ และปฏิบัติงานได้
เป็นการเรียนรู้โดยอาศัยประสบการณ์ต่าง ๆ ทางสังคมและในการประกอบอาชีพ ซึ่งอาจเป็นการเรียนรู้นอกระบบโรงเรียน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสภาพในท้องถิ่นหรือประเทศนั้น ๆ
หรืออาจเป็นการเรียนรู้ในระบบโรงเรียน
โดยใช้หลักสูตรซึ่งประกอบด้วยการเรียนในภาคทฤษฎีสลับกับการฝึกปฏิบัติงาน
การเรียนรู้เพื่อการอยู่ร่วมกัน คือ การเรียนรู้ที่ช่วยให้บุคคลเข้าใจผู้อื่นและตระหนักดีว่า
มนุษย์เราจะต้องพึ่งพาอาศัยกัน
ดำเนินโครงการร่วมกันและเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ
โดยตระหนักในความแตกต่างหลากหลาย ความเข้าใจอันดีต่อกันและสันติภาพ
ว่าเป็นสิ่งล้ำค่าคู่ควรแก่การหวงแหน การเรียนรู้เพื่อชีวิต คือ การเรียนรู้ที่ช่วยให้บุคคลสามารถปรับปรุงบุคลิกภาพของตนได้ดีขึ้น
ดำเนินงานต่าง ๆ โดยอิสระยิ่งขึ้น มีดุลพินิจ และความรับผิดชอบต่อตนเองมากขึ้น
การจัดการศึกษาต้องไม่ละเลยศักยภาพในด้านใดด้านหนึ่งของบุคคล เช่น ความจำ
การใช้เหตุผล ความซาบซึ้งในสุนทรียภาพ สมรรถนะทางร่างกาย ทักษะในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น.
ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21
ที่คนทุกคนต้องเรียนรู้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงมหาวิทยาลัย และตลอดชีวิต 3Rx7C
3R ได้แก่ Reading
(อ่านออก) Writing
(เขียนได้) และ Arithmetics
(คิดเลขเป็น)
7C ได้แก่
-Critical
thinking & problem solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แลทักษะในการแก้ปัญหา)
-Creativity
& innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม)
-Cross-cultural
understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม
ต่างกระบวนทัศน์)
-Collaboration,
teamwork & leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ)
-Communications
, information & media literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ)
-Computing
& ICT literacy (ทักษะด้านความพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
-Career
& learning skills (ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น